🥱 นอนไม่หลับ ตื่นแล้วก้ไม่ยอมหลับต่อ… ฝังเข็มช่วยได้ !!
🤔 ในปัจจุบันอาการนอนไม่หลับเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะวัยทำงานและผู้สูง อายุ ซึ่งอาการของอาการนอนไม่หลับ คือไม่สามารถนอนหลับได้เป็นปกติ ระยะเวลาในการนอนหลับ น้อยกว่าปกติ (โดยทั่วไปน้อยกว่า 4-6 ชั่วโมง)
😵 อาการหลับแล้วตื่นง่าย หรือหลับๆ ตื่นๆ ฝันมาก ตื่นขึ้นมาแล้วหลับยาก (ตื่นกลางดึกมากกว่า 2 ครั้ง หรือ ตื่นก่อนฟ้าสางแล้วนอนต่อไม่ได้) แบ่งได้หลายประเภท
👉 Initial insomnia คือ ภาวะที่มีปัญหานอนหลับยาก ใช้เวลาเวลานอนนานกว่าจะหลับ ร่วมกับมีอาการวิตกกังวลก
👉 Maintenance insomnia คือ ภาวะที่ไม่สามารถนอนหลับได้ยามีการตื่นกลางดึกบ่อย อาจเกี่ยวข้องกับปัญหาทางกาย เช่นภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น และความเครียดสะสมเรื้อรัง
👉 Terminal insomnia คือ ภาวะที่ตื่นเร็วกว่าเวลาที่ควรจะตื่นอาจพบได้ในผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า
😊 การดูแลอาการนอนไม่หลับ มีแนวทางในการรักษา 2 วิธี ได้แก่ การดูแลโดยแพทย์หรือการใช้ยา และการดูแลโดยไม่ต้องใช้ยา
✅ การดูแลโดยการใช้ยาทางแผนปัจจุบัน
จะสั่งยาโดยแพทย์เท่านั้น เพื่อเพิ่มระดับฮอร์โมนเมลาโทนิน หรือรักษาอาการทางจิต ช่วยผ่อนคลายและลดอาการวิตกกังวล ทำให้นอนหลับง่ายและหลับสนิท แม้ยานอนหลับจะช่วยให้เรานอนหลับง่ายขึ้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายานอนหลับมีผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์อยู่มากเช่นกัน และถือเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ จึงทำให้ต้องใช้ยาต่อเนื่อง
✅ การดูแลแบบแพทย์แผนจีนด้วยการฝังเข็ม
อาการนอนไม่หลับเป็นเป็นการนำเอาศาสตร์โบราณของชาวจีนมาผสานเข้ากับความรู้ทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ โดยมีผลทางวิทยาศาสตร์และการวิจัยรองรับ และเป็นที่ยอมรับจากองค์การอนามัยโลกว่าการฝังเข็มจะช่วยให้อาการป่วยหรือโรคที่เป็นอยู่จะค่อยๆ ดีขึ้น
💕 เนื่องจากอาการนอนไม่หลับมีอาการและสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป การรักษาทางแพทย์แผนจีนนั้น จะดูแลตามอาการแต่ละบุคคล เป็นการปรับสมดุลฮอร์โมนและสารสื่อประสาทต่างๆในร่างกายให้กลับเข้าสู่สภาวะสมดุล
🥰 ซึ่งสมดุลในร่างกายแต่ละคนนั้นแตกต่างกันออกไป จึงเป็นจุดเด่นของแพทย์แผนจีนที่สามารถดูแลถึงต้นกำเนิดของปัญหา ไม่ใช่แค่การแก้ไขที่ปลายเหตุ จึงเป็นการดูแลที่ยั่งยืนและปลอดภัย
❤️ การดูแลด้วยการฝังเข็มจะเลือกจุดที่สอดคล้องกับอาการของที่นอนไม่หลับ หลัง จากฝังเข็มปรับสมดุลฮอร์โมนร่างกายประมาณ 30-40 นาที หลังจากนั้นจึงถอนเข็ม แนะนำให้ทำการฝังเข็มอย่างต่อเนื่อง สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ต่อเนื่อง 8-10 ครั้ง โดยระยะเวลาขึ้นอยู่กับความรุนแรงและระยะของอาการนอนไม่หลับครับ
Author Archives: admin
🤔 ประโยชน์ของการฝังเข็มกระตุ้นศีรษะ มีอะไรบ้าง?
👍 ข้อดีของการฝังเข็มกระตุ้นศีรษะ
✅ ดูแลปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
✅ ลดอาการปวดศีรษะไมเกรน ลดความเครียด วิตกกังวล
✅ ช่วยให้การพักผ่อนดีขึ้น หลับง่ายขึ้น
✅ ลดความเจ็บปวดให้จุดต่างๆ ตามร่างกายได้
✅ ลดปัญหาผมร่วงในผู้ที่หนังศีรษะมัน
✅ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดของรากผม
✅ ช่วยกระตุ้นรากผมให้แข็งแรงขึ้น
✅ ช่วยปรับสมดุลระบบประสาท ลดอาการเกร็ง และอาการกระตุก
😊 นอกจากนี้ การฝังเข็มยังช่วยปรับสมดุลของพลังงาน และธาตุต่างๆ ภายในร่างกาย เพื่อให้ร่างกายกลับสู่สมดุลโดยธรรมชาติ เป็นอีกหนึ่งวิธีทางลือกเพื่อลดการใช้ยาแพทย์แผนปัจจุบัน และทำให้อวัยวะภายในกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้
😥 เมื่อภูมิคุ้มกันต่ำ ร่างกายจะส่งสัญญาณเตือนอะไรบ้าง ? และสามารถรักษาด้วยวิธีการฝังเข็มได้หรือไม่ ?
🤔 อาการภูมิคุ้มกันต่ำ หรือ ภูมิตก คือ การที่ร่างกายกำลังส่งสัญญาณว่าเรากำลังอ่อนแอ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว และผู้ที่อยู่ในความเสี่ยงจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ทะนุถนอมร่างกาย เช่น ผู้ที่สูบบุหรี่, ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ, ผู้ที่มีความเครียดสะสม, พักผ่อนน้อย, หรือจากปัจจัยอื่นๆ เช่น สภาพอากาศ, ฝุ่นควันต่างๆ ล้วนส่งผลกระตุ้นให้ร่างกายเกิดอาการภูมิตกได้ง่าย
👉 สัญญาณเตือนภูมิคุ้มกันต่ำ
✅ รู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา อ่อนเพลียโดยไม่มีสาเหตุ
✅ เป็นหวัดบ่อย แสบจมูก น้ำมูกไหล
✅ แพ้อาหารบ่อยๆ ท้องเสียง่าย
✅ มีผื่นแพ้ ผิวหนังอักเสบ
😊 เสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้วยวิธีการ #ฝังเข็ม ในทางแพทย์แผนจีน เพราะการฝังเข็มเป็นศาสตร์ที่ช่วยในเรื่องการปรับสมดุลเลือดลม ผ่านการกระตุ้นบริเวณจุดแนวเส้นลมปราณของร่างกาย ช่วยปรับให้หยินหยางสมดุล ทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราดียิ่งขึ้น
❤️ ประโยชน์ของการฝังเข็ม
✅ ช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนเลือด
✅ ช่วยให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย จิตใจสงบขึ้น
✅ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี ลดการอักเสบของร่างกาย
✅ ช่วยทำให้การนอนหลับสนิทขึ้น
👍 สำหรับใครที่มีสัญญาณเตือนของอาการภูมิคุ้มกันต่ำ สามารถรักษาด้วยวิธีการฝังเข็ม ซึ่งทำได้ตั้งแต่ก่อนจะเกิดอาการเหล่านี้เพื่อเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองไว้ก่อนนะครับ
😊 เมื่อพูดถึงการฝังเข็มโดยแพทย์แผนจีน หลายท่านคงมีคำถามในใจก่อนทำการฝังเข็ม วันนี้คุณหมอจะมาตอบข้อสงสัย 8 ข้อ เกี่ยวกับการฝังเข็มกันครับ
1. การฝังเข็มต้องอายุเท่าไหร่?
✅ ไม่จำกัดอายุในการฝังเข็มครับ สามารถทำได้ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงผู้สูงอายุเลยครับ หากคนไข้มีโรคประจำตัวสามารถปรึกษาคุณหมอก่อนทำการฝังเข็มได้ครับ
2. ดูแลร่วมกับแพทย์แผนปัจจุบันได้ไหม?
✅ สามารถดูแลร่วมกันได้ครับ เพราะว่าโรคบางชนิดอาจจะต้องดูแลที่ต้นเหตุและปลายเหตุไปด้วยกันครับ เช่น โรคเบาหวาน โรคไต ความดัน เป็นต้น
3. ฉีดยายังเจ็บ แล้วฝังเข็มเจ็บไหม?
✅ เข็มนั้นมีขนาดเล็กหลายเท่ามากเมื่อเทียบกับเข็มฉีดยาทั่วไป มีขนาดเพียงแค่ 0.18-0.40 มิล เท่านั้น แทบไม่รู้สึกเลย ตัดความกังวลใจข้อนี้ได้ครับ
4. ความสะอาด ความปลอดภัย มาตรฐาน?
✅ เข็มฝังปลอดเชื้อ ไม่มีตัวยาและใช้เพียงครั้งเดียวทิ้ง (Sterile Acupuncture Needles for Single Use) และได้รับการรับรองจาก CE และมาตรฐานการันตีจาก ISO ครับ
5. ลดอาการปวดได้ยังไง?
✅ การฝังเข็มจะช่วยกระตุ้นบริเวณที่ปวดให้เลือดและลมปราณไหลเวียนดีขึ้น บำรุงให้ความชุ่มชื้นแก่เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ ลดอาการตึง ปวด อักเสบ สลายเลือดที่คั่ง ขับสารพิษสะสมในร่างกายครับ
6. ฝังเข็มแล้วต้องหยุดพักไหม?
✅ ไม่ต้องครับ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติหลังการฝังเข็มเลยครับ เพียงแต่ควรดื่มน้ำอุ่น งดการออกกำลังกายหักโหม และเว้นระยะการอาบน้ำประมาณ 2-4 ชม. ครับ
7. ฝังเข็มแล้วเอาออกไหม?
✅ บางคนอาจจะเข้าใจว่าเป็นการฝังเข็มเข้าไปภายในร่างกาย ที่จริงแล้วการฝังเข็มจะฝังเข็มลงในชั้นกล้ามเนื้อ โดยฝังลงไปลึกประมาณครึ่งนิ้วถึงหนึ่งนิ้วแล้วแต่จุด ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาทีจึงนำเข็มออก ระหว่างนั้นอาจจะใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าร่วมด้วยทำให้การฝังเข็มมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ
8. ระหว่างฝังเข็มรู้สึกอย่างไร?
✅ อาจรู้สึกหน่วงๆตื้อๆบริเวณที่มีเข็มฝังอยู่ รู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นแปลบๆไปตามเส้นลมปราณซึ่งเป็นปกติไม่มีอันตรายแต่อย่างใดครับ
✨ ทำความรู้จักกับ “กัวซา” ศาสตร์ความงาม เคล็ดลับกระชับใบหน้า สร้างผิวสวยด้วยการกัว!!!
😊 “การกัวซา” เป็นหนึ่งในหัตถการทางการแพทย์แผนจีน โดยการใช้วัสดุที่มีลักษณะขอบมนเรียบ เช่น หยก เขาสัตว์ ไม้ หรือแก้ว นำมาทำเป็นแผ่นกัวซา โดยผ่านการกัวบริเวณผิวหนังตามแนวเส้นลมปราณและจุดฝังเข็ม โดยเป็นศาสตร์แผนจีนที่ใช้ในการดูแลผิวพรรณให้มีสุขภาพดี และกระจ่างใส โดยวิธีทางธรรมชาติ
❤️ ประโยชน์ของการกัวซาใบหน้า
✅ กระตุ้นและเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ทำให้ผิวกระจ่างใส
✅ ขับพิษ Detoxผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น
✅ ช่วยให้รูขุมขนกระชับ ลดริ้วรอย จุดด่างดำบนใบหน้า
✅ ทำให้ผิวหยืดหยุ่น ยกกระชับ
😍 ผิวสุขภาพดีด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีนได้ด้วยกัวซาใบแบบฉบับของ “เฟิ้งฮวงคลินิก”
👅👀 ลิ้นบอกสุขภาพได้! การตรวจวินิจฉัยด้วยการดูลักษณะลิ้นและฝ้าบนลิ้น เป็นส่วนสำคัญในการตรวจของแพทย์แผนจีน เพราะเส้นลมปราณของอวัยวะภายในร่างกายล้วนเดินผ่านบริเวณลิ้นกันทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้ลิ้นจึงสะท้อนถึงสภาวะภายในร่างกายได้เป็นอย่างดี
😛 ดังนั้นการดูลิ้นเปรียบเสมือนกระจกเงาสะท้อนถึงภาวะสมดุลและไม่สมดุล ว่าในร่างกายมีสิ่งใดผิดปกติอย่างไร โดยลักษณะของตัวลิ้นสามารถสะท้อนถึงอวัยวะภายในทั้ง 5 (ปอด หัวใจ ม้าม ตับ ไต) และเมื่ออวัยวะทุกส่วนทำงานสนับสนุนซึ่งกันและกันในสภาวะสมดุล จึงทำให้ร่างกายมีสุขภาพที่เหมาะสมที่สุดครับ
👨⚕️ แพทย์จีนยังต้องพิจารณาลิ้นแต่ละส่วนเพื่อประกอบการวินิจฉัย
✅ สีของลิ้น ควรมีสีแดงเรื่อ
✅ รูปร่างของลิ้น ไม่หนาหรือบางเกินไป เรียบไม่แตก
✅ สารเคลือบลิ้น เคลือบสีขาวบางๆ
😊 ลิ้นสามารถสะท้อนถึงอวัยวะภายในทั้ง 5 ได้ดังนี้
✅ โคนลิ้น
💧 ธาตุน้ำ ระบบปัสสาวะ
👉บ่งบอกถึงสุขภาพไตและกระเพาะปัสสาวะ สิ่งที่ต้องดูคือสีและคราบ ถ้าโคนลิ้นมีฝ้าหรือคราบสีเหลือง แสดงว่าไตหยินพร่อง ควรดื่มน้ำให้เพียงพอวันละ 8-12 แก้ว
✅ ข้างลิ้น
🪵 ธาตุไม้ ระบบของตับ
👉 บ่งบอกถึงสุขภาพของตับและถุงน้ำดี หากมีรอยฟันข้างลิ้น มีจุดม่วง แสดงว่าลมปราณ (ชี่) ที่ตับติดขัด เลือดไหลเวียนไม่ดี
✅ กลางลิ้น
🪴 ธาตุดิน ระบบย่อยอาหาร
👉 บ่งบอกถึงสุขภาพของม้ามและกระเพาะอาหาร ถ้ามีฝ้าหนาบริเวณกลางลิ้น แสดงว่าระบบย่อยอาหารไม่ดี เกิดความชื้นในร่างกาย รวมถึงปัญหาของระบบขับถ่าย
✅ ส่วนถัดจากปลายลิ้น
🏆 ธาตุทอง ระบบหายใจและภูมิคุ้มกัน
👉 บ่งบอกถึงสุขภาพของระบบหายใจและภูมิคุ้มกัน บริเวณแนวโค้งที่อยู่ถัดจากปลายลิ้นเข้ามา หากมีสีออกแดงอาจแสดงว่ามีปัญหาเกี่ยวกับปอด หากมีสีซีดแสดงถึงระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง
✅ ปลายลิ้น
🔥 ธาตุไฟ ระบบหลอดเลือดหัวใจ
👉 บ่งบอกถึงสุขภาพของหัวใจ ทั้งกายและจิต หากมีสีแดงหรือจุดแดงที่ปลายลิ้น แสดงว่าหัวใจมีความร้อนมาก มีความเครียดต่างๆ
👉 เบลพาลซี่ (Bell’s Pasly) คือ อาการที่เกิดการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อใบหน้าครึ่งซีก ทำให้ไม่สามารถขยับใบหน้าซีกนั้นได้ เป็นผลมาจากเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อแสดงสีหน้าไม่ทำงาน เป็นอาการที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย
⚠️ Bell’s Palsy แบ่งออกเป็น 3 ระยะ
✔️ ระยะแรก (ระยะเฉียบพลัน) ตั้งแต่เริ่มเป็นจนถึง 15 วัน
✔️ ระยะกลาง (ระยะฟื้นตัว) ตั้งแต่วันที่ 16 จนถึง 6 เดือน
✔️ ระยะสุดท้าย (ระยะมีอาการหลงเหลือ) ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป
🤔 อาการของโรคหน้าเบี้ยวครึ่งซีก
✅ เมื่อดื่มน้ำจะมีน้ำไหลออกมาจากมุมปาก
✅ ปากเบี้ยว มุมปากตก พูดไม่ชัด
✅ หลับตาได้ไม่สนิท เปลือกตาล่างเปิดออก
✅ ไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ
✅ ปวดหู และได้ยินเสียงดังมากผิดปกติ
✅ ชาบริเวณใบหน้าครึ่งซีก
✅ ยักคิ้วไม่ขึ้น ขมวดคิวไม่ได้
😊 แนวทางการดูแลด้วยการฝังเข็ม
👉 การฝังเข็มเป็นวิธีอย่างหนึ่งที่สามารถกระตุ้นการฟื้นตัวเส้นประสาท และกล้ามเนื้อที่เสียหายได้ จึงสามารถนำเอามาดูแลภาวะอัมพาตของกล้ามเนื้อใบหน้าได้เช่นกัน
👨⚕️ แพทย์จีนจะใช้เข็มเล็กๆ ปักตามจุดบริเวณใบหน้าและแขนขา เพื่อกระตุ้นระบบประสาทและกล้ามเนื้อ กระตุ้นเลือดลมให้ไหลเวียนดีขึ้น ส่งผลให้เส้นประสาทและกล้ามเนื้อกลับมาทำงานได้ตามปกติ การรักษาแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 30 นาที
🔮 การครอบแก้วบริเวณแผ่นหลัง ตามจุดฝังเข็มเส้นลมปราณไท่หยาง เพื่อกระตุ้นการทำงานของเส้นลมปราณให้ไหลเวียนเลือดทั่วร่างกาย รวมถึงขับของเสียจากปัจจัยภายนอกที่กระทบกับร่างกายร่วมด้วย
👍 แนะนำให้ฝังเข็ม 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ และใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน มักจะหายเป็นปกติได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องรีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุดจึงจะได้ผลดี
😅 นั่งทำงานอยู่กับโต๊ะมานานต่อเนื่องหลายชั่วโมง/วัน มีปัญหาปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดคอ นิ้วมือชา และอาการปวดกล้ามเนื้อบริเวณอื่นๆ หรือที่เรียกว่า “ออฟฟิศ ซินโดรม”
💊 ทายาก็แล้ว กินยาก็แล้ว ก็ยังไม่หาย งั้นมาลองอีกวิธีที่น่าสนใจอย่าง “ฝังเข็มและครอบแก้ว” กันสักหน่อย!
😊 #ขั้นตอนแรกก่อนทำการฝังเข็ม : แพทย์จีนจะทำการตรวจโดยใช้ศาสตร์การแพทย์แผนจีน ด้วยการสังเกตลักษณะของสีลิ้น ร่วมกับ “การแมะ” (จับชีพจรข้อมือ) ซึ่งจะสามารถบ่งบอกได้ถึงพลังของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายว่าผิดปกติหรือมีปัญหาจุดไหนบ้าง รวมถึงการซักถามประวัติต่างๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่สามารถใช้ประกอบกับการรักษาได้ถูกต้อง
😍 #ขั้นตอนที่สอง : แพทย์จีนจะใช้เข็มขนาดเล็กปักลงในจุดต่างๆ ของร่างกาย แล้วกระตุ้นโดยใช้นิ้วมือหมุนปั่น หรือใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า ใช้เวลาประมาณ 20 นาที เพื่อลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ และคลายกล้ามเนื้อมัดที่เกร็งให้นิ่มขึ้น เพื่อกระตุ้นให้ลมปราณการไหลเวียนของเลือดในร่างกายสมดุลขึ้น
🥰 #ขั้นตอนสุดท้าย : หลังจากการฝังเข็มเสร็จ แพทย์จีนจะทำการครอบแก้วประมาณ 7-10 นาที เพื่อช่วยส่งเสริมการฝังเข็ม กระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด และกำจัดของเสีย ขับสารพิษ ปรับสมดุลร่างกาย
❤️ การฝังเข็มอาจจะดีขึ้นในครั้งแรก แต่หากอาการที่เป็นมานานเรื้อรัง จำเป็นต้องทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อย 7-10 ครั้ง เพื่อลดการใช้ยาแผนปัจจุบันด้วยครับ
😪 นอนไม่หลับ ต้องปรับสมดุลร่างกายด้วยศาสตร์แพทย์จีน
🥱 ปัญหานอนไม่หลับสามารถเกิดได้ทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะวัยทำงานที่จะส่งผลต่อความสมดุลของร่างกาย ทำให้ร่างกายไม่สดชื่น ไม่กระปรี้กระเปร่า
✅ มีอาการหลับยาก ใช้เวลาเข้านอนนานเกินกว่า 30 นาที
✅ หลับแล้วตื่นง่าย หรือหลับๆตื่นๆ
✅ ตื่นขึ้นมาแล้วหลับยาก ตื่นกลางดึกมากกว่า 2 ครั้ง
✅ ร้อนคอ เหงื่อออกกลางคืน ฝันบ่อย
🇨🇳 ในทางแพทย์จีนอาการนอนไม่หลับนี้เรียกว่า “Shi Mian” เกิดจากการทำงานผิดปกติของหัวใจ ตับ ม้าม ไต พร่อง และหยางตับมากเกินไป ส่งผลให้ระบบอวัยวะต่างๆภายในไม่สมดุล รวมทั้งอารมณ์แปรปรวนง่าย และฮอร์โมนต่างๆไม่สมดุล
👨⚕️แพทย์จีนจะใช้การฝังเข็มปรับสมดุลฮอร์โมนร่างกายบริเวณศีรษะ แขนขา และลำตัวประมาณ 30 นาที ร่วมกับการครอบแก้วบำบัดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อช่วยปรับการทำงานของระบบประสาทและอวัยวะต่างๆให้เข้าสู่สภาพปกติ ผ่อนคลายความเครียด เมื่อระบบอวัยวะต่างๆกลับเข้าสู่สมดุล จะสามารถนอนหลับได้ดีขึ้นครับ
😊 แนะนำการฝังเข็มปรับสมดุลร่างกายต่อเนื่อง 8-10 ครั้ง ร่วมกับการวินิจฉัยของแพทย์จีน แมะชีพจรและตรวจดูลิ้น เพื่อรักษาต้นเหตุของอาการ พร้อมกับในบางเคสสามารถทานตำรับยาจีนเพื่อช่วยส่งเสริมการฝังเข็มด้วยได้ครับ
🙍🏻♀️ PCOS คือภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ เป็นลุ่มอาการที่มีความผิดปกติของหลายๆระบบในร่างกาย ทำให้เกิดการตกไข่ที่ไม่สม่ำเสมอหรือไม่ตกไข่ เกิดเป็นซีสต์หรือถุงน้ำเล็กๆในรังไข่ พบได้บ่อยประมาณร้อยละ 10-20 ในเพศหญิงวัยเจริญพันธุ์
🤔 ภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบยังไม่มีสาเหตุแน่ชัด อาจเกิดขึ้นจากหลายๆ ปัจจัย แต่พบว่าจะมีการหลั่งฮอร์โมนแอลเอชมากเกิน และมีภาวะอินซูลินในเลือดสูง ส่งผลให้รังไข่สร้างฮอร์โมนต่างๆอย่างไม่ได้สมดุล เกิดภาวะฮอร์โมนเพศชายสูงและไม่มีการตกไข่ ความผิดปกติเหล่านี้ทำให้เกิดอาการแสดงและภาวะแทรกซ้อนต่างๆ
😖 สัญญาณของภาวะ PCOS
✅ หน้ามัน
✅ เป็นสิวเยอะ
✅ ขนดก มีหนวดขึ้น
✅ ประจำเดือนไม่มาหรือมาผิดปกติ
✅ มีบุตรยาก
✅ น้ำหนักขึ้นง่าย บวมน้ำ
✅ ผิวหนังมีปื้นหนาสีน้ำตาล
👨⚕️🇨🇳 ในทางแพทย์จีนจะดูแลด้วยการฝังเข็มปรับสมดุลฮอร์โมนร่างกายแบบองค์รวม ร่วมกับครอบแก้วบำบัดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ใช้จุดฝังเข็มหลักและจุดเสริมเพื่อช่วยปรับการทำงานของอวัยวะต่างๆให้เข้าสู่สภาพปกติสมดุล กระตุ้นการไหลเวียนเลือดทั่วร่างกาย เพื่อลดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
😊 สาวๆสามารถป้องกันได้ด้วยการมีสุขภาพที่ดี รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกินเกณฑ์ ลดเสี่ยงภาวะอ้วน เบาหวาน และควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอครับ